วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กำลังใจ

จงเข้าใจสิ่งต่างๆ อย่างที่เป็น "กาลครั้งหนึ่ง.....นานมาแล้ว..... .มี..อากง..แก่ๆ...อยู่คนนึ่ง...อยากจะสอนข้อคิดอะไรบางอย่างให้หลานๆ . ..ตามปะสาคนแก่ .... .....อากง...จึงเรียกหลานๆทั้งสี่มานั่งล้อมโต๊ะสี่มุม . ...แล้วบอกหลานทั้งสี่ว่า .เอาล่ะหลานๆ..ตอนนี้หลับตา..นะ..หลับตา . ....พอหลานๆหลับตา...อากง...ก็เดินเข้าไปห้องเก็บของ . ..แล้วหยิบโคมไฟเก่าๆมาอันนึ่ง... . ....อากง...เปิดฝาครอบ...จุดไฟ...แล้วปิดฝาครอบ..... .....แล้ว...อากง...ก็บอกหลานทั้งสี่...ว่า... ลืมตาขึ้น..แล้วบอก ...อากง...บอกซิว่าโคมไฟสีอะไร...? .....เด็กทั้งสี่ลืมตาขึ้น....ตอบไล่ๆกัน . ...ตอบไม่เหมือนกัน...และเริ่ม...ทะเราะกัน.... ....คนที่นั่งด้านนึ่งบอกว่า...สีแดง...อีกด้านนึ่งบอกว่า...เขียว ...สีเหลือง...และน้ำเงิน....ตาม ลำดับ.......... .....ทั้งสี่ทะเราะกันพักนึ่ง....ก็มีเด็กคนนึ่งถาม...อากง...ว่า อากงทำไมของอย่างเดียวกันมีตั้งหลายสี อากงก็เลยบอกว่าเดี๋ยวนะอากงจะทำอะไรให้ดู อากงเดินมาที่โต๊ะหยิบฝาครอบแล้วหมุนให้ดูปรากฏว่าฝาครอบสี่ด้านสี่สี . ..แดง...เหลือง...เขียว...น้ำเงิน... ...... หลังจากนั้นอากงก็บอกว่าเอ๊าตอนนี้บอกอากงซิโคมไฟสีอะไร? . หลานๆ....ตอบเหมือนกันคือสีของเปลวไฟ อากงเลยบอกว่าเอาล่ะหลานอากงถามอะไรชักสองข้อนะ.... ข้อที่..1.....เมื่อสักครู่นี้ครั้งแรกใครผิด.... .หลานตอบว่า....ไม่รู้อากงบอกว่า....รึว่าอากงผิด อากงเลยบอกอีกว่าฟังนะเจ้าทั้งสี่..นั่งอยู่ในที่ เดียวกัน.... ......มองของ อย่างเดียวกัน...ในเวลา เดียวกัน...ยังเห็นไม่เหมือนกันเลย..... ทำไม..? ทำไมถึงไม่มีใครผิดล่ะ.... อากง..เลยบอกว่า...ก็เพราะคนทุกคนมองจากมุมมอง...ของตัวเอง...เห็นในสี่งที่ตัวเองเห็น ....แต่..ถ้าเจ้าอยากเข้าใจว่าทำไมคนอื่นเห็น...อย่างที่เขาเห็น...เจ้าก็เดินไปมองที่มุมของ เขา....แล้วเราก็จะเห็นอย่างที่เขาเห็น.... แต่ถ้าลองนึกภาพนะ....เจ้าทั้งสี่...นั่งอยู่ที่เดียวกัน ...มองของอย่างเดียวกัน...ไนเวลาเดียวกัน ...ยังเห็นไม่เหมือนกันเล๊ย.... ในอนาคต....เวลาที่อยู่ในสังคม...เป็นไปได้มั๊ย... คน..ก็มองสี่งต่างๆ ....ไม่เหมือนกันเพระ?นั้นเวลาที่คนคิดไม่เหมือนเราใครผิด ... ในอนาคตนะ...เวลาที่เจ้าคิดไม่เหมือนคนอื่น ....อย่าไปโกรธว่าเขาผิดอย่าไปกลัวว่า...ตัว เองผิด .... เพราะคนแต่ละคนก็เห็นสี่งต่างๆจากขอบข่ายประสบการณ์และสี่งแวดล้อมของตนเอง .... แต่ถ้าเจ้าอยากเข้าใจว่า...ทำไมคนอื่นถึงคิดแบบนั้น ....เจ้าก็เดินไปมุมของเขา ....และเมื่อเจ้า ยอมเข้าใจคนอื่น ....อาจเป็นไปได้ว่าคนอื่นก็อาจจะยอมที่จะเดินมา ....และเข้าใจเจ้า ..... คำถามที่..2...อากง..บอกว่า... .ที่เห็นครั้งแรกกับครั้งหลัง....เป็นของอย่างเดียวกันมั๊ย ..? .... ......หลานบอกว่าอย่างเดียวกันแล้วเห็นเหมือนกันมั๊ย....? ....ครั้งแรกเห็นอะไร...? หลานตอบว่า ...ฝาครอบและครั้งหลังเห็นเปลวไฟ .... อากงเลยบอกว่าหลานๆเอ๊ย... ในอนาคตถ้าเลือกได้นะ...อย่ามองสิ่งต่างๆ...เพียงแค่ที่เห็น.... ......จงเข้าใจสี่งต่างๆ...อย่างที่เป็น...... โดย..ภทฺรวาที

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

กศน.ตำบลหนองรี

ประกาศ นักศึกษาที่เรียนที่ กศน.ตำบลหนองรี กับครู จอย สามารถดูผลสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ที่ กศน.ตำบลหนองรี หรือ โทรหาครู จอย 087-1538823 ได้ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป

กศน.ตำบลหนองรี

กศน.ตำบลหนองรีเปิดรับสมัครนักศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 ระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษษตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ติดต่อครูจอย โทร 087-153882

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด2


ให้นักเรียนเติมสำนวนสุภาษิตในช่องว่างให้ถูกต้อง  
1. คางคก (หมายถึง คนถ่อยหรือต่ำช้า)
2. ยกภูเขา (หมายถึง หายหนักใจ)
3. ฟังไม่ได้ศัพท์ (หมายถึง รู้เรื่องไม่ละเอียดถี่ถ้วน ก็ถือเป็นจริงเป็นจัง)
4. พูดจน (หมายถึง พูดจนผู้ฟังเคลิบเคลิ้ม)
5. ผักชี (หมายถึง ทำดีพอพ้นตัว ความดีหรือความสวยงาม ลวงตาได้เพียงผิวเผิน
6. ปากว่า (หมายถึง พูดอย่างหนึ่ง แต่ทำตรงกันข้าม)
7. บ้านเคยอยู่ (หมายถึง สถานที่ตนเคยอยู่มาก่อน)
8. น้ำนิ่ง (หมายถึง คนที่เงิยบ หงิมๆ มักจะมีความคิดลึกซึ้ง)
9. ทำเป็นทอง (หมายถึง เฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น)
10. ไก่แก่ (หมายถึง ผู้หญิงที่สูงอายุที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว)

แบบฝึกหัดเรื่องสำนวนสุภาษิตไทย

ชื่อ..............................................ชั้น..................................... ที่................................
แบบทดสอบ เรื่อง  สุภาษิต สำนวนไทย

ตอนที่ ๑  ให้นักเรียนเลือกสุภาษิต สำนวนไทยที่เหมาะสมกับประโยคที่กำหนดให้
พายเรือในอ่าง     ปอกกล้วยเข้าปาก        คาหนังคาเขา                น้ำพริกละลายแม่น้ำ
ใส่หน้ายักษ์                  ยืนกระต่ายขาเดียว                 มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ 
จับปลาสองมือ       รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี        ย้อมแมวขาย     ปากหอยปากปู

๑.   พ่อ แม่ ควรอบรมสั่งสอนลูกตนเอง ดังสุภาษิตที่ว่า ...........................................................
๒. คุณครู  ไม่ควร ............................... ในขณะที่สอน เพราะจะทำให้นักเรียนกลัว
๓.  เด็กชายภาวิช ควรเลือกทำงานส่งทีละอย่าง ไม่ควรทำทั้ง ๒ อย่างพร้อมกัน เหมือนกับ ..............................................................
๔.  เธอไม่ควร ...........................เอาของไม่ดีมาหลอกขายให้คนอื่น
๕. การบ้านนี้ง่ายเหมือน.........................................................................
๖.   เราไม่ควรทำตัวเป็นพวก.............................................................. เอาเรื่องคนอื่นมาพูด
๗. ตำรวจจับผู้ร้าย ...................................................พร้อมของกลางนขณะที่ส่งยาเสพติด
      แต่คนร้าย.................................................ไม่ยอมรับผิด
๘.  หากเธอไม่ช่วยเพื่อนทำงาน ทำตัวเป็น .......................................................... จะทำให้งานไม่สามารถคืบหน้าไปได้ เหมือนกับ ...........................................วนอยู่กับที่ไม่ไปไหน


ตอนที่ ๒  จับคู่ภาษิต  สำนวนไทย และความหมายที่ถูกต้อง
๑.   แกะดำ……….               ก. กินอย่างไม่รู้จักพอ หรือ กินอย่างสุรุ่ยสุร่าย
๒. กินปูนร้อนท้อง …….         ข.  การพูด หรือ ตอบคำถามอย่างขอไปที
๓.  กินล้างกินผลาญ…….         ค.  ผู้ที่ชอบทำอะไรแตกต่างจากเพื่อน
๔.  กำปั้นทุบดิน…….             ง.  เมืองไทยยังมีคนดีมีฝีมืออยู่มาก
๕. กระต่ายแหย่เสือ…….         จ.  ผู้ชายที่หมายปองผู้หญิงที่สูงศักดิ์
๖.   กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี ……..     ฉ.  ผู้ที่แสดงอาการพิรุธหรือแสดงอาการร้อนตน
๗. ก้มหน้าก้มตา …….                  ช.  ผู้น้อยที่ยั่วแหย่บุคคลที่มีอายุหรืออำนาจ     
๘.  กระต่ายหมายจันทร์ ……..          ญ. ผู้ใช้จ่ายไม่ประหยัด ไม่รู้จักเก็บออม
๙.   กระเชอก้นรั่ว ……..                ฎ. หนีอันตรายสิ่งหนึ่ง ไปพบอีกอย่างหนึ่ง
๑๐.   หนีเสือปะจระเข้..........          ฏ. การตั้งใจทำงานโดยไม่มองดูสิ่งอื่น


ตอนที่ ๓  เลือกสำนวนสุภาษิตไทยที่นักเรียนสนใจและนำมาแต่งเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับสำนวนสุภาษิตนั้น ๑ เรื่อง

 








__________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________